verb to be
มันมีที่ใช้อยู่หลักๆ 3 แบบ คือ
1. ใช้แปลว่าเป็น อยู่ คือ เช่น
I am a student
ถ้าเป็น past tense จะเป็น I was
future จะเป็น I will be
perfect จะเป็น have been
คือเราจะต้องบอก tense ก่อน แล้วเลือก verb to be ที่เหมาะสมใส่ลงไป
จะรู้ได้อย่างไรว่าเหมาะสม? ก็คือปกติเรารู้อยู่แล้วว่า will ไปกับ be, have ไปกับ been แต่ถ้าอธิบายจริงๆก็คือ will บวกกริยาช่องที่ 1 have ใน perfect บวกกริยาช่องที่สาม คือ been
2. ใช้ประกอบกับคำ adj (จำได้นะคะว่า adj วางได้สองที่คือหน้านามกับหลังเวิร์บทูบี)
I am rich
I was rich
I will be rich
I have been rich
3. passive voice
คือ verb to be บวกกริยาช่องที่สาม I will be killed
คำกิริยาในภาษาอังกฤษ ตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น 3 ช่อง เรียกว่า “กิริยา 3 ช่อง" ซึ่งแต่ละ ช่องก็บอกถึง เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย
คำที่แสดงถึงอาการต่าง ๆ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของเวลา กล่าวอีกนัยหนึ่งก็ คือ คำพูดที่แสดง ถึงการกระทำของตัวประธานในประโยค หรือคำที่ทำหน้าที่ช่วยคำกิริยาด้วยกันนั่นเอง กิริยาเป็นคำที่มีบทบาทที่สำคัญ ในแต่ละประโยค ถ้าในประโยคนั้น ๆ ขาดคำกิริยา ความหมายก็ไม่เกิด และไม่สามารถทราบถึงเหตุการณ์ต่าง ๆได้เลย หรือมีใจความที่ไม่สมบูรณ์
คำกิริยาตามหน้าที่แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. สกรรมกิริยา ( Transitive Verb ) คือ คำกิริยาที่ต้องมีตัวกรรม หรือคำอื่นเข้ามารองรับความ หมายจึง จะสมบูรณ์ เช่น The boys kick football in the field. หมายความว่า พวกเด็ก ๆ เตะ ฟุตบอลอยู่ที่สนามหญ้า คำว่า “kick “ เป็น คำกิริยา บอกให้ทราบถึงเหตุการณ์ว่าในขณะนี้หรือปัจจุบัน นี้เด็ก ๆ กำลังเล่นกันอยู่ ส่วนคำว่า “ football ” เป็นตัวกรรม หรือตัวที่ทำหน้าที่รองรับกิริยาให้มีความ หมายสมบูรณ์ขึ้น เพราะถ้าใช้คำว่า “ kick “ คำเดียวความหมายไม่สมบูรณ์ ไม่ รู้ว่าเตะอะไร นั่นเอง
2. อกรรมกิริยา ( Intransitive Verb ) คือ คำกิริยาที่ไม่ต้องมีตัวกรรมหรือคำอื่นมารองรับก็ได้ ความหมายสมบูรณ์ เช่น The dogs run in the field. ประโยคนี้ไม่ต้องมีตัวกรรมมารองรับ ก็ได้ใจ ความสมบูรณ์ดี ซึ่งคำว่า “run “ แปลว่า “ วิ่ง “ คงไม่ต้องถามว่าใช้อะไรวิ่ง
3. กิริยาช่วย ( Helping Verb หรือ Auxiliary Verb ) คือ กิริยาที่มีหน้าที่ช่วยให้กิริยาด้วย กันมีความหมายดีขึ้น และ ยังมีหน้าที่ทำให้ตัวของมันเองมีความหมายที่สมบูรณ์ขึ้นได้ดีอีกด้วย เช่น She studies in Lamp – Tech college . Does she study in Lamp – Tech College?
คำ กิริยาในภาษาอังกฤษตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น 3 ช่อง เรียกว่า “กิริยา 3 ช่อง" ซึ่งแต่ละ ช่องก็บอกถึง เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย
กิริยาช่องที่ 1 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
กิริยาช่องที่ 2 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
กิริยา ช่องที่ 3 ใช้กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปอย่างสมบูรณ์ทั้งในปัจจุบันและอดีต เรียก อีกอย่างหนึ่งว่า “ส่วนสมบูรณ์ของกิริยา หรือ Complement
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น